ผลงานการเย็บผ้า
- มัดปมไหมเสียก่อนนะคะ จากนั้นแทงเข็มจากด้านล่างขึ้นมาด้านบนค่ะ
- ส่งเข็มกลับด้านล่างผ้าด้วยการแทงลงไปค่ะ ห่างจากจุดแรก ½ นิ้วนะคะ แต่แน่นอนว่าเราสามารถปรับความกว้างได้ตามต้องการเสมอ
- แทงเข็มขึ้นจากด้านล่างค่ะ ห่างจากจุดที่แทงลงไป ½ นิ้วหรือขนาดเดียวกันกับรอยเย็บแรกนะคะ ควรให้มีความกว้างยาวเท่า ๆ กันค่ะ แนะนำให้ปักเป็นเส้นตรงก่อนสำหรับมือใหม่
- ขั้นต่อไป แทนที่จะปักเข็มเย็บไปด้านหน้า เราจะปักกลับไปยังจุดเดิมที่เราแทงเข็มลงไปก่อนหน้านี้นะคะ
- แทงเข็มขึ้นมาบนผ้าอีกครั้ง ห่างจากจุดแทงขึ้นครั้งก่อน ½ นิ้วหรือเท่ากับรอยเย็บก่อน ๆ นี้นะคะ
- ใช่แล้วค่ะ เย็บย้อนกลับค่ะ แทงเข็มกลับไปยังจุดเดิมที่เพิ่งแทงเข็มลงไปก่อนหน้าค่ะ แล้วจากนั้นก็ปักไปด้านหน้าด้วยขนาดความกว้างยาวเท่า ๆ กันค่ะ
- ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ ขนาดของรอยเย็บควรจะห่างเท่า ๆ กัน และสำหรับขอแนะนำให้เย็บเป็นเส้นตรงก่อนนะคะ แต่หากต้องการเย็บเป็นเส้นโค้ง ๆ ก็ควรตะเย็บให้ถี่ ๆ สักนิดค่ะ ถึงจะได้เส้นโค้งที่สวยงาม
ขนมตะโก้ เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งที่อร่อยเป็นอันดับต้นๆของขนมไทย ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าผสมกับน้ำตาลรสหวาน และมีหน้าขนมเป็นกะทิรสมันเค็ม โดยอาจจะมีการใส่วัตถุดิบอย่างอื่นเข้าไปด้วย เพื่อให้รสชาติอร่อยและหลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น เผือก ข้าวโพด แห้ว ดังนั้นเราจึงเรียกขนมตะโก้แล้วตามด้วยวัตถุดิบที่ใส่ลงไป เล่น ตะโก้เผือก ตะโก้ข้าวโพดเป็นต้น อย่างไรก็ตามเราสามารถที่จะตกแต่งสีโดยการใช้สีจากธรรมชาติได้อีก เช่น สีเขียวจากใบเตย คนที่ได้ลองได้ชิมขนมตะโก้แล้วรับร้องอร่อยถูกใจทุกคน สำหรับวิธีทำขนมตะโก้นั้นก็ไม่ยากเลย ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับประทานขนมอร่อยกันแล้ว
ส่วนผสม
ส่วนผสมตัวแป้ง
-แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วยตวง
-แป้งมัน 1 ถ้วยตวง
-น้ำตาลทราย 4 ถ้วยตวง
-น้ำดอกมะลิลอย 8 ถ้วย
-เผือกนึ่งหั่นสี่เหลี่ยม 3 ถ้วยตวง
ส่วนผสมหน้าตะโก้
-แป้งข้าวเจ้า 2 ถ้วยตวง
-กะทิ 10 ถ้วยตวง
-เกลือ 2 ช้อนชา
-น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
วิธีทำ
ทำตัวแป้ง
-นำแป้งข้าวเจ้าและแป้งมันผสมเข้าด้วยกัน โดยค่อยๆใส่น้ำดอกมะลิลอย แล้วนวดให้เข้ากัน
-ทำน้ำเชื่อม โดยต้มน้ำตาลกับน้ำ จนน้ำตาลละลายและพอเดือด ยกลงพักไว้
-เทน้ำเชื่อมผสมกับส่วนผสมแป้งทีละน้อย แล้วคนให้เข้ากันพอดี
-นำส่วนผสมแป้งใส่ในกะทะ ใช้ไฟปานกลาง กวนจนแห้งและข้นเหนียว
-ใส่เผือกแล้วกวนให้เข้ากันอีกครั้ง แล้วนำไปใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
ทำหน้าตะโก้
-ผสมแป้ง กะทิ น้ำตาล และเกลือเข้าด้วยกัน
-ตั้งไฟ ใส่ส่วนผสมลงในหม้อ กวนจนเดือดและข้น
No comments:
Post a Comment